วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

กษัตริย์ผู้เคยพ่ายแพ้


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกษัตริย์จีนพระองค์หนึ่งพ่ายแพ้ในการทำสงคราม และได้หนีไปหลบซ่อนพระองค์อยู่ในตึกร้าง ขณะที่ประทับนิ่งอยู่ด้วยความระย่อท้อถอยนั้นเองก็ทอดพระเนตรเห็นมดตัวหนึ่งกำลังปลุกปล้ำอยู่กับข้าวสาลีเม็ดใหญ่เพื่อนำไปในรังของมัน แต่ข้าวสาลีค่อนข้างจะหนักมาก มดจึงไม่สามารถคาบได้ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นมันเพียรที่จะคาบเม็ดข้าวอยู่ถึง 69 ครั้ง และทุกครั้งก็เพียรพยายามถึงที่สุด แต่ก็ไม่สำเร็จ มันก็หาละทิ้งไว้เพียงนั้นไม่ พอครั้งที่ 70 ก็สามารถคาบข้าวเม็ดนั้นไปได้อย่างสบาย ด้วยเหตุนี้พระองค์ทรงเกิดขัตติยะมานะอันแรงกล้า ทรงรวบรวมไพร่พลออกทำสงครามด้วยความอดทน และสามารถเอาชนะศัตรูที่เคยเอาชนะพระองค์มาแล้วได้อย่างราบคาบ

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

งานจิตอาสา งานอาสาสมัคร เป็นงานที่เสนอตัว

ย้อนหลัง สรุป Mind mapping หนังสือนอกกะลา ภาคสอง

หนังสือนอกกะลา ภาคสอง ความหวัง และการงอกใหม่ นอกกะลา

ความรู้ ที่ท่านอาจจะ ยังไม่รู้

Mind Mapping ภาคสี่ เติบโตนอกกะลา

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรื่องจริงผ่านจอ วันที่ 24 มีนาคม 2554



  ที่มาเรื่องจริงผ่านจอ วันที่ 24 มีนาคม 2554
- แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร
- ซึนามิ ที่ญี่ปุ่น

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

สรุปสิ่งที่ได้ในการอบรมหงายกะลาวันที่สอง

สรุปสิ่งที่ได้ในช่วงเช้า
    1. จิตศึกษา    - Brain gym - ฝึกการใช้สมองทั้งสองซีก
                                             - ยืดตัว
                                             - เคาะ เบาๆ กระตุ้นการทำงานของสมอง
                                             - นวด  ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
                           - บัตรคำ   - หาความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับตัวเราและเล่าเรื่องราวต่อกันให้เป็นเรื่องเดียว (คิดสร้างสรรค์  เชื่อมโยง  จินตนาการ การใช้คำ)
     2. การเล่านิทาน    - เล่านิทาน ภาษาอังกฤษ
        - นิทานพับกระต่าย
        - นิทานภาษาไทย สำหรับเด็กอนุบาล
        - นิทานวาดภาพ
  3. การเก็บเด็ก   - เพลงใบไม้

10.30  อบรมรวม
   - ได้เรียนรู้การทำ Mind mapping เบื้องต้น เริ่มจาก วาดภาพสื่อความหมายจากคำที่เป็นรูปธรรม ง่ายๆ และนามธรรมยากๆ เช่น ความคิด ต่อด้วยการคิดแนวกว้าง (กิ่งแก้ว) การคิดแนวลึก (กิ่งก้อย)
  - จากนั้นก็ได้ทำ workshop ทำ Mind mapping เกี่ยวกับตัวเรา

ตอนบ่าย
   - นอนปลาดาว สแกนร่างกายเพื่อความผ่อนคลาย
   - สันทนาการจากครูต๋อย เพื่อไม่ให้ง่วงและสนกสนาน
    - วาดภาพจากรูปเลขาคณิตที่กำหนด
  O.D.   - ต่อจิ๊กซอที่ได้รับ  ต่อเป็นกลุ่ม
การทำงานเป็นทีม
  - ดูวิดิทัศน์ เกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำ  การทำงานอย่างมีความสุข
  - หย่อนเชือกลงหลุม
  - เป้าหมายองค์กร - รู้เป้าหมาย รู้สึกร่วม รู้วิธีทำ
  - ปัญหาขององค์กร
  - เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์
      คลิปสัมภาษณ์เด็ก และคลิปเยี่ยมบ้านครูตุ๊กตา
 - ภาพยนตร์ เสียงกู่จากครูใหญ่  (อุดมการณ์  ความอดทน ความขยัน)
  - การสื่อสาร ด้วยการกระซิบทีละคน (อุปสรรคของการสื่อสาร, ความจำ)
  - พับนก, ส่งต่อนก  - การทำงานเป็นทีม

Mind mapping สรุปกิจกรรมหงายกะลาวันที่สอง

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรียน reading กับคุณเจมส์

วันนี้เรียนการอ่านภาษาอังกฤษ  เรื่อง Planning that ensures academic achivement
ได้รู้ว่า  การสอนที่ดีควรรู้จุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของหน่วยการเรียนนั้นๆ จะทำให้เราสามารถที่จะเตรียมหรือวางแผนการสอนได้ง่าย และการวางแผนการสอนควรวางไว้ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์  ความสำเร็จของการสอน ไม่ได้อยู่ที่คุณทำมันหรือคนอื่นอยากจะทำมันแต่มันอยู่ที่การบรรลุจุดมุ่งหมายที่ประเมินได้  ควรวางเป้าประสงค์ทั้งหมดล่วงหน้าหนึ่งภาคเรียน แล้วค่อยมาวางแผนการสอนและกิจกรรมที่จะทำของแต่ละบทล่วงหน้าอย่างต่ำหนึ่งสัปดาห์

ทัศนศึกษา จ.ชัยภูมิ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา  เดินทางไปทัศนศึกษาที่อุทธานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน เมื่อ วันเสาร์ที่ 19 มี.ค. 54 เดินทางตี ๔ ถึงศาลเจ้าพ่อพญาแล ๘ โมงเช้า  ทานข้าวเช้า จากนั้นออกจากศาล ๙ โมง ไปที่อุทยานตาดโตน ถึงตาดโตนต่อรถไปมอหินขาว (เหนื่อยมาก แต่วิวสวยมาก) กลับตอนเที่ยง ถึงน้ำตกบ่ายโมง  ทานอาหารกลางวันและลงเล่นน้ำ
ออกจากน้ำตกบ่ายสามโมงครึ่ง แวะทานข้าวที่บัวใหญ่และเดินทางกลับ  กลับถึงโรงเรียนสองทุ่ม อย่างปลอดภัย  ได้รู้จักต้นไม้ชนิดต่างๆ  ได้รู้จักเมืองชัยภูมิมากขึ้น

ปัจฉิมนิเทศ ป.๖ รุ่น แสงแห่งกาญจน์

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมสรุปงานสิ้นปี หงายกะลา ลำปลายมาศพัฒนา

เราภูมิใจที่เห็นทุกท่านมีความสุข จากคนหลังฉาก  อาจมีตะกุกตะกักบ้าง เพราะเป็นมือใหม่


วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

Mind mapping เรื่อง Present Tense (ปัจจุบัน)


ตัวอย่าง Present Perfect Continuous Tense
  - How long have you been teaching here?
      คุณสอนที่นี่มานานหรือยัง
  - I have been teaching here since 2009. ฉันสอนที่นี่มาตั้งแต่ปี 2009

  - Mathew has been living in Thailand since 2006. แมททิวอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2006
  - I have been reading a book for 2 hours. ฉันอ่านหนังสือมาสองชั่วโมงแล้ว (ทำต่อเนื่องไม่หยุดเลย)

  ส่วน Present Perfect Tense
   I have already read 20 pages. ฉันอ่านหนังสือจบไปสองหน้าแล้ว   ซึ่งไม่ได้ระบุว่าอ่านติดต่อกันตลอด  อาจมีไปทำธุระอย่างอื่น แล้วค่อยกับมาอ่านต่อ  ต่างจาก PPC ที่อ่านต่อเนื่องไม่หยุดเลย

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554

จิตวิญญาณความเป็นครู


-ความรักในการเป็นครู (อาชีพครู)
-รักนักเรียนทุกคนเท่ากัน
-ปณิธานความเป็นครู

    - ครูที่ดีของนักเรียนเป็นยังไงก็ทำแบบนั้น,
     - ไม่เลือก ให้เกียรติ หาข้อดี,
     - ไม่ยอมปล่อยให้เด็กในห้องล้มเหลวเพียงคนเดียว,
     - ไม่ยอมปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ,
      - ถ้าเป็นครูที่ดีไม่ได้ให้ประกอบอาชีพอื่น

วันนี้ได้อะไร


วันนี้ประชุมครูใหม่ ครูชาญให้ดูคลิป   ได้รู้ว่า

แนวทางโรงเรียนนอกกะลา
   มุ่นเน้นความสุขของการเรียนรู้ และการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณด้วยกิจกรรมจิตศึกษา โรงเรียนไม่เน้นการแข่งขัน

แนวทางของครู
คุณครูใจดี  - ไม่ดุด่าเด็ก
                   - ท่าทางครู   ใช้เสียงเบา  และใจเย็น
                   - การเก็บเด็กด้วยการชมเชยเพื่อนตรงข้าม
                   - ความรักที่ครูมีให้แก่นักเรียนและสอนให้นักเรียนรู้จักรักทุกสรรพสิ่ง
                   - เครื่องมือคิด
                   - สร้างแรงบันดาลใจ

การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์  - SQ
                                        - EQ
                                        - IQ
                                        - PQ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

วันปล่อยบอลลูน

 ตอนเช้า ทำปลาดาว  ได้ฝึกทักษะการฟัง และผ่อนคลาย  ได้ความมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเอง  ฟังอย่างมีสติ
ตอนบ่ายดูการปล่อย บอลลูน เพื่อถ่ายรูปโลกจากภายนอกโลกเห็นความร่าเริงของเด็ก และความเป็นกันเองของเด็กที่ชอบแซวครู โดยเฉพาะพี่ช้างกับพี่ปาร์มป.๖ แล้วครูก็เล่นกับเด็กด้วย เด็กๆ หัวเราะกันใหญ่มีความสุขสนุกสนาน

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

สอนภาษาอังกฤษป.๓ ครั้งแรก





อันนี้ค่อยข้างจะไม่เป็นไปตามแผนการสอนที่เราวางไว้  เพราะหลังจากที่สอนเด็กโตกว่านี้มา ก็พอจะจับทิศทางได้ว่าจะไปทิศทางไหนในขณะที่เราสอน  เราอาจจะสอนในสิ่งที่เด็กช่วยเราคิดในช่วงนั้นก็เป็นไปได้  เพื่อความพึงพอใจของนักเรียน  ป.๓ มีพี่ดิว กับพี่ต้น  ที่ไม่ค่อยตั้งใจฟัง   แต่ทำไมเราถึงจำเด็กสองคนนี้ได้ดีมากกว่าเด็กคนอื่นๆ ที่ตั้งใจเรียน  กิจกรรมที่ทำในวันนี้คือ เริ่มจากเตรียมความพร้อมของผู้เรียน  จากนั้นให้เด็กๆแนะนำตัว พร้อมบอกตัวอักษรที่ตัวเองชอบ พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงชอบตัวอักษรตัวนี้  จากนั้นฝึกสติและสมาธิ  ครูทำให้ดูรอบแรกก็ผิดนิดหน่อย แต่รอบสองไม่ผิดเลย เพราะมันมียี่สิบหกจังหวะ  เด็กๆก็ทำได้  ครูไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษกับเด็กมากเพราะยังอยู่ในช่วงชั้นที่หนึ่ง  จากนั้นก็ให้ทำงาน วาดตัวอักษรพร้อมตกแต่ง วาดภาพสื่ออธิบายความหมาย และเหตุผลที่ชอบตัวหนังสือตัวนี้  ขอบคุณครูตุ๊กตาครูประจำชั้นป.๓ ที่ให้คำชี้แนะครับ

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

นิตยสารลมหายใจ

บันทึกการสอนวันที่ ๘ มีนาคม โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา


วันนี้ตอนแรกว่าจะเข้าสอนคาบแรกป.๔ แต่กิจกรรมจิตศึกษาของป.๕ เสร็จช้า ก็เลย เปลี่ยนไปเป็นสอนคาบบ่ายโมงแทน
วันนี้ได้สอนป.๕ คาบสามต่อจากเมื่อวาน เด็กๆ เล้าให้ พาเล่นเกม กับพาร้องเพลง ก็เลยพาเล่นเกม และพาร้องเพลงภาษาอังกฤษ โดยมีคุณครูยิ้มมาช่วยดูแลด้วย กว่าจะเล่นเกมเสร็จก็เหลือเวลาเรียนอีกแค่สิบนาที วันนี้สอนเกี่ยวกับการอ่านการเขียน ตัวเลขหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน และเศษส่วน ก็พาอ่านตัวอย่างบางข้อ แล้วก็ให้ไปทำเป็นการบ้าน ตอนเที่ยงนักเรียนก็เอาการบ้านมาทำ ตอนบ่ายสอนป.๔ เหมือนเขาจะได้อะไรไม่มากเท่าไหร่ วิธีการสอนก็คล้ายๆ กับสอนป.๕ เมื่อวาน แต่ป.๕ กับ ป.๔ ต่างกัน ป.๕ เมื่อวาน จะรับได้มากกว่าป.๔ วันนี้ บทเรียนที่สำคัญคือ การอบรมเด็กที่ต้องพูดเป็นคำยาวๆ ไม่ใช่ออกคำสั่ง หรือชมเชยสั้นๆ และการทำให้เด็กทุกคนฟังครูโดยไม่คุยกัน จะยาก เพราะบางคนอยากจะนอนเรียนก็นอน ซึ่งครูต้องเรียนรู้ต่อไป

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

Concept Tense อย่างง่าย

Tense หมายถึง กาลเวลา โดยแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือ
1. Present Tense ปัจจุบัน  สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
      เช่น  I am a teacher. (ฉันเป็นคุณครู)
2. Past Tense อดีต  สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
      เช่น  I was a teacher. (ฉันเคยเป็นครู)
3. Future Tense (อนาคต)   สำหรับเหตุการณ์ที่คิดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
     เช่น  I will be a teacher. (ฉันจะเป็นครู)

บันทึกการสอน ป.๕ ครั้งแรก


วันนี้ดูจิตศึกษา ป.๕ และมีสอนภาษาอังกฤษคาบ 1 ของป.5
วันนี้รู้สึกว่าจะได้ทำปฏิสัมพันธ์กับพี่ๆ ป.๕ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของพี่ต่อ ซึ่งถือว่าจี๊ตสุดในห้องแล้ว
ตอนจิตศึกษาครูสังให้พี่ๆป.๕ คิดหาเหตุผล ว่าอะไรที่ยางลบ และ ใบไม้ทำได้ และ อะไรที่ยางลบ กับใบไม้ทำไม่ได้ ซึ่งได้รู้ว่า นอกจากความสมเหตุสมผล แล้ว เด็กยังมีความคิดสร้างสรรค์
ตอนที่สอนป.๕ ได้สร้างความสัมพันธ์กับพี่ๆทุกคน และพี่ทุกคนได้สร้างความสัมพันธ์กับครูเป็นภาษาอังกฤษ ในสิ่งที่เด็กอยากรู้ในตัวครู จากนั้นสอนร้องเพลง ABC ง่ายๆ แต่เป็นจังหวะทำนอง ที่เด็กไม่เคยรับรู้มาก่อน เด็กรู้สึกประหลาดใจและให้ความสนใจกับสิ่งใหม่ๆ จากนั้นสอนการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษ และสอนเขียนคำอ่านเป็นภาษาอังกฤษ เช่น one two three เป็นต้น โดยเริ่มต้นจากการเล่าเรื่องสั้นๆ พร้อมให้พี่ๆหาผลลัพธ์จากเรื่องที่ได้
และการนับจำนวนภาษาอังกฤษที่เห็นภาพ โดยวาดรูปภาพประกอบง่ายๆ
ว่าจะให้การบ้านแต่เวลาไม่พอ ครูยิ้มเลยให้นำไปสอนต่อพรุ่งนี้
ป.๕ อาจจะเก็บยากกว่า ป.๖ นิดหน่อย แต่ก็โอเคเพราะสามารถเก็บเองได้ และเด็กมีความสุข สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ

เรียนรู้ศัพท์จากชื่อวิชา 2


Macroeconomics = เศรษฐศาสตร์มหภาค
English for Business Communication  = ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ
 Analytical History of Thailand = ประวัติศาสตร์ไทยเชิงวิเคราะห์
 Minor Games = เกมเบ็ดเตล็ด
Cross-Cultural Management = การจัดการข้ามวัฒนธรรม
 Swimming = ว่ายน้ำ
Table Tennis  = เทเบิลเทนนิส
 Marketing in Asia = การตลาดในภูมิภาคเอเชีย
Management of Organization Change and Innovation = การจัดการการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมในองค์กร
International Logistics management = การจัดการการขนส่งกำลังบำรุงระหว่างประเทศ
 International Finance = การเงินระหว่างประเทศ
Internet and Communication in Daily Life = อินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
 Man and Reasoning = มนุษย์กับการใช้เหตุผล
Business Law and Taxation = กฎหมายธุรกิจและภาษีอากร
  Seminar in International Business = สัมมนาธุรกิจระหว่างประเทศ
Japanese in Daily Life = ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวัน
Export-Import Management = การจัดการการส่งออกและนำเข้า
Business Policy and Strategic Management = นโยบายธุรกิจและการจัดการเชิงกลยุทธ์
Business Statistics = สถิติธุรกิจ

ติดตามต่อวันพรุ่งนี้

เฉลย การอ่าน ตัวเลข ทศนิยม และเศษส่วน


Numbers, Decimals, and Fractions
Instructions: fill in the blank with the correct numbers or words.
Numbers  จำนวนและตัวเลข
99   = ninety-nine                                            100 = one hundred
101 = A hundred and one                               109 = A hundred and nine
110 = A hundred and ten                               117 = A hundred and seventeen
208 = Two hundred and eight                         334 = Three hundred and thirty four
1,000 = one thousand                                     10,000 = ten thousand
11,000 = eleven thousand                               20,000 = twenty thousand
21,000 = twenty one thousand                       85,000 = eighty-five thousand 
100,000 = one hundred thousand                   999,000 = nine hundred and ninety nine
               thousand

Decimals and Fractions (ทศนิยมและเศษส่วน)
1/10 or 0.1 = one-tenth                                   1/8 = one eighth
2/10 or 0.2 = two-tenths                                 ¼ = one-quarter or one-fourth
3/10 or 0.3 =three-tenths                     1/3 = one-third
4/10 or 0.4 = four-tenths                                 1/2 = one – half
6/10 or 0.6 = six-tenths                                   5/8 = five eighths
3/7 = three sevenths                                        7/11 = seven elevenths
2/3 = two-thirds                                              7/10 or 0.7 = seven-tenths
¾ = three-quarters                                           1 ½ = one and a half
6 ¼ = six and one quarter                               5 5/8 = seven and five eighths
Quantity
Written
How to say it?
1,200,000
1.2 million
One point two million
3,000,000
3 million
Three million
250,000,000
250 million
Two hundred fifty million
6,400,000,000
6.4 billion
Six point four billion
23,380,000,000
23.38 billion
Twenty three point three eight billion
 Homework 

Can you find the best answer from this question?
Ex.  One plus two equal three  1 + 2 = 3
15 + 22 =                                 Fifteen plus twenty two equal thirty seven
             + 4 = 44                      forty plus four equal forty four
35+ 27 =                                                                                                                     
             = 91                                                                                                               
50-50 =                                    Fifty minute fifty equal zero
45 – 21 = 23                            Forty five minute twenty one equal twenty three
____ - ___ = 38                                                                                  
1/10 + 1/10 = 2/10                   one-tenth plus one-tenth equal two tenths
2/5 + 2/5 =                               two – fifths plus two – fifths equal four – fifths
3/10 – 1/10 = 2/10                                                                                                      
2 ½ + 2 ½ = 5                          Two and a half   plus  two and a half equal five
7 ½ +       =                                                                                                                 
Summary  สรุปการเรียนรู้
Ex.  1 = one                             100 = one hundred
201 = two hundred and one   300 = three hundred
404 = four hundred and four  1000 = one thousand
2010 = two thousand and ten             10,000 = ten thousand
45,000 = forty five thousand  100,000 = a hundred thousand
888,000 = eight hundred and eighty eight thousand
1,000,000 = one million
1,300,000 = one point three million
1/3 = one – third                     3/7 = three – sevenths
7 5/8 = seven and five eighths            ¼ = one quarter

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

Numbers, Decimals, and Fractions


Instructions: fill in the blank with the correct numbers or words.
Numbers  จำนวนและตัวเลข
                           = ninety-nine                        100 = one hundred
101 = A hundred and one                               109 =                                      
110 = A hundred and ten                               117 = A hundred and seventeen
208 = Two hundred and eight                                    334 =                                      
             = one thousand                                  10,000 = ten thousand
11,000 = eleven thousand                               20,000 = twenty thousand
21,000 =                                                          85,000 = eighty-five thousand
100,000 =                                                        999,000 =                                           

Decimals and Fractions (ทศนิยมและเศษส่วน)
1/10 or 0.1 = one-tenth                                   1/8 =                                       
2/10 or 0.2 = two-tenths                                 ¼ = one-quarter or one-fourth
3/10 or 0.3 =                                                    1/3 = one-third
4/10 or 0.4 = four-tenths                                             = one – third
6/10 or 0.6 = six-tenths                                   5/8 = five eighths
3/7 =                                                                             = seven elevenths
2/3 = two-thirds                                              7/10 or 0.7 = seven-tenths
¾ = three-quarters                                           1 ½ = one and a half
6 ¼ =                                                               ­            = seven and five eighths
Quantity
Written
How to say it?
1,200,000
1.2 million
One point two million
3,000,000

Three million

250 million
Two hundred fifty million
6,400,000,000
6.4 billion

23,380,000,000

Twenty three point three eight billion

ลองคิดหาคำตอบดู จะมาเฉลยพรุ่งนี้ครับ

เรียนรู้ศัพท์จากชื่อวิชา


Language Expression Rhetoric =   ศิลปะการแสดงออกทางภาษา
  Man and Environment =   มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม  
Principles of Marketing =  หลักการตลาด
  Business Environment =   สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
Information Technology Applications =   การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
  Organization and Management =   องค์การและการจัดการ
  Foundation English = ภาษาอังกฤษหลัก
Global Issues = สภาวะการณ์โลก
Principles of Accounting = หลักการบัญชีขั้นต้น 
Introduction to International Business = ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศ
 Business Computer and Information Technology = คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ
Mental Health and Personality Development = สุขภาพจิตและการพัฒนาบุคลิกภาพ
International Finance = การเงินระหว่างประเทศ
Business Research Methodology = ระเบียบวิธีวิจัยธุรกิจ
International Logistics management = การจัดการการขนส่งกำลังบำรุงระหว่างประเทศ
Introduction to International Business = ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศ

ติดตามต่อวันพรุ่งนี้

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

Why Thais Change value the way of life of Thais style.


Thais change material for the way of life because new material can make the life more easy and more comfortable when new material come the old material will not be use because new material instead of old material or old material can not be use.

For example in the old time we using cart for going to other place but now we using car and we using mobile phone in talking in difference place instead going to talk to them directly now we using e-mail instead paper letter because of e-mail can send faster than letter mail.
Thais change behavior for the way of life because in the past Thai people work hard and love their culture but now the spread of western culture can make Thai using western culture in the way of life and careless or negligently because western culture make them lazy using more comfortable material such as car and mobile phone.

Thais change mind or ethic for the way of life because of now Thai people more selfish because of the right and be equal from democracy new politic make Thai people can do whatever they want and don’t care more for social.

India – Japan: Local content Requirement (non tariff barrier) for Automobile

IndiaJapan: Local content Requirement (non tariff barrier) for Automobile

Introduction
           
            India is a third biggest country in the world and it has the population about a thousand million people that is the second most of the world. India is located in South Asian subcontinent near the main Indian Ocean. It set in the south of China. The capital of India is New Delhi, the city of disorder and traffic jam. The most income of this country comes from services. (CIA factbooks)
India is a country that creates trade policies to protect their local industries. The new policies involve Local Content Requirement for automobile and some of electronics devices. The most impacted country from this trade policy is Japan because Japanese is a large producer and supplier for automobiles. How Japanese going to do if it can not have monopoly authority for its products.
            Local content requirement is a trendy policy of the government for developing countries to control foreign direct investment that come to do the business in their countries which require using the most component from domestic country. This policy is using more in developing countries such as Mexico, Indonesia, Malaysia, Pakistan, Peru, Thailand, Uganda, Uruguay, Venezuela, and South Africa.
            Local content requirement is the non- tariff barrier that can help to improve the economy of the country that uses this policy. Because of the most of parts of product must produce from domestic country. Some country requires the local content more than 50% such as Malaysia and India.
             
Background and Problem

The world is rising of reversed between developed countries and developing countries. Because of developed countries has excellent technologies but meet with maturity markets, developing countries has outdated technologies but undiscovered markets. While company from developed countries likes to export their goods to undiscovered markets, developing countries try to tempt foreigners to invest in their market by using multinational enterprises (MNEs) of foreign direct investment. It may help developing country to increase workers and make greater of technologies - transfer benefit.
Developing countries added local content requirement (LCR) of foreign direct investment (FDI) because they want to fulfill their potential employment and profit of transfer technology.
This local content requirement policy asks for multinational companies to use a same ratio of domestic part and components. So employment in domestic component factories will increase. In the order to maintain quality of finished goods, foreign investors need to transfer their technologies into local component factories of developing countries. Thus local content requirement becomes a popular policy of developing countries government for FDI. In the sample of 50 countries, 27 countries or about 57% use local content requirement for FDI in automobile industry. And the most of them are developing countries.
            Who take advantage who loss from this policy? The fact that countries that create this policy will gain about rising of employment and enhancing of technologies transfer and gain more profits. But it will affect the consumer surplus. Consumer will pay more money. The surplus of consumer is the difference part between all amount of money that consumer willing to pay for a product and the potential amount of money were paid. The price of product will increase about 50% - 100%. For example, suppose that without FDI, company 1 will spend money for it cost for component $100 and company 2 will spend $200. When creates the local content requirement policy the company must use at least 50% for local parts which cost $200. In the result, the company 1’s cost become $250 that the cost mark up about 150% and company 2’s cost becomes $300 the cost mark up about 50%.

            How this problem has been formed? The problem occurs when India stated a new automotive policy on 12 December1997 which it calls for producer of the automotive manufacturing and it requires Ministry of Commerce to outline and put a signature on a memorandum of understanding (MOU). That is a new course of action for the manufacturing. In the following, this policy face problem related to the TRIMs (TRADE-RELATED INVESTMENT MEASURES) Agreement. New policy of India contains of first, this policy request 50 percents of local content be accomplished within three years of the date on which the first imported parts are authorization and it will increases to 70 percents within five years of first authorization. Second, the policy asks for that export of vehicles or parts start within three years of beginning, with the potentiality of limitation on the number of parts that can be imported rely on the degree to which the met of export requisition. (Ch7 – TRIMs)
            India had records of creation permit of automobile component import for industries establish working within its limits qualified upon signing MOU including local content requirements and export/import balancing requirements by without consider to any legal basic for its acts. Japan considers a new automotive policy of India violated the TRIMs Agreement. Although the TRIMs Agreement have gone since the TRIMs Agreement took effect for three years. But Japan said it is not fair and the taking of the policies that certainly violate international agreements at this point of time of connection point is a big changing from the rules and norms of manner in the international community. The policy was reviewed through Indo-Japan bilateral trade talks in January 1998, but Japan should take up again at every chance to pressure the India government for the beginning to cancel the policy.
            In addition, India has had export limitations on farming goods and manufacturing products since 1991, and in 1986 created local content requirements for penicillin and other pharmaceuticals. The WTO has been informed of these actions and they are not in violation of the agreement, but Japan have to still gaze that they are not widened and that they are abolished on agenda.
           
What is the outstanding trade problem facing the world? Many countries requested the setting up of a World Trade Organization panel that is United States and EU, on the reason that they should get harmonize balance to India nationals and industries and suspected damages of the TRIM Agreement. Japan joined as a third party country. The panel has let down a decision that mostly allows the U.S. and EU requests and India petitioned decision of the panel in January 2002. Japan will screen how the dispute on this problem advances.
            In the subject of standards and certification, it is greatly probable that for iron and steel goods the responsibility to correspond to Indian domestic prices and the responsibility to record in order to use those prices, as well as the obligation to add labels to cover products, establish unimportant trade restrictions. Japan is cared about how these subjects concern to the TBT Agreement. Japan must review with India goal, important part and details of these strategies, as well as their agreement with the WTO Agreement. (Ch9. India)
            How the problem has an effect on the world? This problem will effect to the market of the world because of the market of developed countries was maturity and growing quite slowly. But when developed countries want to change their purpose to new market that is developing countries market but it has the restriction that is local content requirement.  It can make the surplus products of developed countries can not have the way to go. It is not easy to entry the developing countries, you will meet a big restriction and it will increase your cost of product. You price of product will rising about 50-100%. The consumer will reduce to buy the automobile because of the expensive of car and fuel. The automobile market will grow slowly because the automobile market is not easy to entry. It may effect to automobile company to be stop produce a new model of car for saving the cost of research and development.

Conclusion
Local content requirement is the non- tariff barrier that can help to improve the economy of the country that uses this policy. Because of the most of parts of product must produce from domestic country.
Developing countries added local content requirement (LCR) of foreign direct investment (FDI) because they want to fulfill their potential employment and profit of transfer technology.
            The problem occurs when India stated a new automotive policy on 12 December1997 which it calls for producer of the automotive manufacturing and it requires Ministry of Commerce to outline and put a signature on a memorandum of understanding (MOU).
            Japan considers a new automotive policy of India violated the TRIMs Agreement. Although the TRIMs Agreement have gone since the TRIMs Agreement took effect for three years. But Japan said it is not fair and the taking of the policies that certainly violate international agreements at this point of time of connection point is a big changing from the rules and norms of manner in the international community.
            This problem will effect to the market of the world because of the market of developed countries was maturity and growing quite slowly. The fact that countries that create this policy will gain about rising of employment and enhancing of technologies transfer and gain more profits. But it will affect the consumer surplus.