๑. ทำไมครูต้องไหว้ทักทายกัน
- เป็นวัฒนธรรมขององค์กร ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย
๒. ทำไมครูต้องมาทำงานแต่เช้า
- เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้ปกครอง สร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง อีกทั้งการมีปฏิสัมพันธ์กันนักเรียน
- เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่เวรหน้าประตู
- เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะสอนแต่เนิ่นๆ ไม่เร่งรีบ มีเวลาทบทวน และวางแผนในวันนี้
- รับอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น สมองปลอดโปร่งจิตใจเบิกบาน
๓. ทำไมครูต้องมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย
- เพื่อให้นักเรียนมีความสนใจในการทำกิจกรรม กระตือรือร้นอยากเรียนรู้
๔. ทำไมครูจึงมีสมุดสื่อสารถึงผู้ปกครอง
- เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องกับผู้ปกครอง และเพื่อสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน
๕. ทำไมครูต้องมีการประชุมเป็นประจำทุกสัปดาห์
- เพื่อ ทบทวนงาน พัฒนางาน ร่วมกัน แสดงความคิดเห็น สร้างสรรค์งานอย่างหลากหลาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปัญหา ข้อเสนอแนะ เพื่อหาแนวทางแก้ไข แนวคิดและกิจกรรมในการพัฒนาผู้เรียน
- ครูทุกคนจะได้รู้ความเคลื่อนไหวสิ่งที่เกิดขึ้น
- เป็นการสร้างเวทีให้ครู
- เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ
๖. ทำไมครูไม่ดุ ไม่ตี เปรียบเทียบ ตะคอกใช้ความรุนแรง
- เพราะการตี การดุด่าจะทำให้เด็กหวาดกลัวและบางครั้งเด็กจะไม่ยอมรับในพฤติกรรมของครูและจะไม่ทำให้เด็กก้าวร้าว
- เด็กทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนา ได้ การดุตีใช้ความรุนแรงทำให้เด็กเกิดการต่อต้าน หวาดกลัว ส่งผลให้สมองปิดการเรียนรู้ ลดคุณค่าในตนเองและการเปรียบจะเป็นการตีตรา และเป็นบ่อเกิดแห่งความอิจฉา
๗. ทำไมครูตรวจงานจึงไม่มีคะแนนและดาว
- เพื่อไม่ให้มีการเปรียบเทียบเด็กทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน
๘. ทำไมต้องจัดตารางเวรให้ครูยืนรับผู้ปกครอง – นักเรียน ขณะมารับ – ส่ง
- เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนหรือผู้ปกครอง และได้รู้จักนักเรียนหรือผู้ปกครองในชั้นเรียนอื่นๆ
๙. ทำไมครูต้องออกเยี่ยมบ้านนักเรียน
- เพื่อให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้พฤติกรรมของนักเรียน ขณะอยู่ที่บ้านและโรงเรียน
๑๐. ทำไมต้องมีการพัฒนาครูใหม่อย่างต่อเนื่อง
- เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางและวัฒนธรรมขององค์กร
๑๑. ทำไมต้องมีการจัดการเรียนการสอนบูรณาการโดยโครงงาน
- เพื่อส่งเสริมการคิด และทักษะการแสวงหาความรู้ เรียนรู้เพื่อความเข้าใจ
๑๒. ทำไมครูไม่ได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียว ต้องมีหน้าที่อื่นด้วย
- เพื่อจะได้เรียนรู้งานอื่นอย่างหลากหลาย และพัฒนาตนเอง
๑๓. ทำไมครูจึงไม่มีการอบรมหน้าเสาธง
- อบรมตอนเช้าเด็กจะไม่ฟัง การบอกข่าวสาร การส่งเสริมวินัยเป็นหน้าที่ของครูประจำชั้น
๑๔. ทำไมครูจึงไม่มีการสรุป ข้อคิดหลังจากเล่านิทานจบ
- เพื่อฝึกให้เด็กแสดงความคิดเห็น ถาม-ตอบ เกี่ยวกับนิทานที่ฟัง
๑๕. ทำไมครูจึงใช้เสียงอย่างธรรมชาติและท่าทีที่เป็นกัลยาณมิตร
- ยิ่ง ครูพูดเสียงดังเด็กก็จะไม่ฟัง ทำให้ครูไม่เจ็บคอ เสียงโมโนโทนเข้าถึงจิตวิญญาณข้างในและมีเด็กได้รับท่าทีจากครูที่เป็น กัลยาณมิตรผู้เรียนก็จะเปิดรับสิ่งที่ครูนำเสนออย่างเต็มที่และตั้งใจ
๑๖. ทำไมครูไม่ชี้ผิด ชี้ถูก เมื่อเด็กทะเลาะกัน
- เพื่อให้นักเรียนรู้จักโยนิโส (น้อมนำทบทวนตนเอง) เปิดโอกาสให้เด็กทั้งสองคนได้พูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจในสิ่งที่กระทำ
๑๗. ทำไมครูต้องพูดเสียงเบา
- ถ้า พูดด้วยน้ำเสียงที่ดัง ตะคอกใส่อารมณ์ ฉุนเฉียวจะทำให้สมองเด็กปิดการเรียนรู้ ครูก็เหนื่อย หงุดหงิด เป็นโรคที่เกี่ยวกับกล่องเสียง
- เด็กจะได้ตั้งใจฟัง และมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องที่ครูพูด
- เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและเด็ก
๑๘. ทำไมครูต้องเล่นกับเด็ก
- ลดช่องว่างระหว่างครูกับเด็ก สร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้เข้าใจและเห็นคุณค่าเด็กแต่ละคน เป็นการสอน/เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติระหว่างครูกับเด็ก (มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถถ่ายทอดความเป็นมนุษย์สู่มนุษย์ได้)
๑๙. ทำไมครูถึงไม่บอกคำตอบเด็ก
- เพื่อให้เด็กเกิดกระบวนการคิดเพื่อค้นหาคำตอบด้วยตนเอง
- เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากหาคำตอบด้วยตนเอง (ไม่รอคำตอบจากครู)
- ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดเพียงคำตอบเดียวเสมอ
- ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้จากผู้อื่น
๒๐. ทำไมครูต้องมาทานข้าวเช้าร่วมกัน
- อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุด
- สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครู และได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างไม่เป็นทางการ
๒๑. ทำไมต้องมีกีฬาและกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน เพื่อความเป็นกันเอง
- ผ่อนคลาดความเครียด เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และการทำงานเป็นทีม
๒๒. ทำไมครูไม่มีชุดเครื่องแบบในการแต่งกาย
- เคลื่อนไหวสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ
- ลดความรู้สึกน่าเกรงขาม การยึดติดกับเครื่องแบบ ยศ ภาพลักษณ์ภายนอก
- ลดช่องว่างระหว่างครูกับเด็ก
๒๓. ทำไมต้องมีการจัดอบรม พัฒนาศักยภาพครู และทำไมครูต้องได้เรียนรู้สิ่งใหม่
- เพราะ ครูเป็นผู้แนะนำ กระตุ้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ การเพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ เข้าใจอย่างลึกซึ้ง รอบรู้ กระตือรือร้น เรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง
เรียนรู้ ควบคู่การพัฒนา ตนเองนะครับ
ตอบลบน้องพี่..