วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2565

พอไม่ สัมปะยุต ก็ไม่ทุกข์

 พอไม่ สัมปะยุต ก็ไม่ทุกข์

เราเสพสิ่งใดเราก็ทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เสพข่าว ก็ทุกข์เพราะข่าว
ไม่เสพก็ไม่ทุกข์
ดังคำที่ยายทวดชอบบอกไว้คือ
“เบิ่งแต่หู ดูแต่ตา”
อย่าเอาสังขารเจตสิกไปปลุงอย่าเอามโนวิญญาณไปเสพ
พูดภาษาง่ายๆ อย่าเอาใจไปมีอารมณ์ อย่าดิ่ง อย่าอิน
ประมาณนั้น
ขออนุญาตท่องบาลีให้ฟังสักกลอน
จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํ สมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสาย ปจฺจเยน ปจฺจโย
โสตายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํ สมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสาย ปจฺจเยน ปจฺจโย
ฆานายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํ สมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสาย ปจฺจเยน ปจฺจโย
รสายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํ สมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสาย ปจฺจเยน ปจฺจโย
กายายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํ สมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสาย ปจฺจเยน ปจฺจโย
ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุยา จ มโนวิญฺญาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิญฺญาณธาตุยา ตํ
ฯลฯ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรียกว่า สังขารเกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
[๒๕๘] วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย เป็นไฉน จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
[๒๕๙] นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย เป็นไฉน นาม ๑ รูป ๑ ในนามและรูปนั้น นาม เป็นไฉน เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ นี้เรียกว่า นาม รูป เป็นไฉน มหาภูตรูป ๔ และอุปาทายรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูป นามและรูปดังกล่าวมานี้ นี้เรียกว่า นามรูปเกิดเพราะวิญาณเป็นปัจจัย
[๒๖๐] สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย เป็นไฉน จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ มหายตนะ นี้เรียกว่า สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย
[๒๖๑] ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย เป็นไฉน จักขุสัมผัส โสตสัมผัส ฆานสัมผัส ชิวหาสัมผัส กายสัมผัส มโนสัมผัส นี้เรียกว่า ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
[๒๖๒] เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย เป็นไฉน จักขุสัมผัสสชาเวทนา โสตสัมผัสสชาเวทนา ฆานสัมผัสสชาเวทนา ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา กายสัมผัสสชาเวทนา มโนสัมผัสสชาเวทนา นี้เรียกว่า เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
[๒๖๓] ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย เป็นไฉน รูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพตัณหา ธัมมตัณหา นี้เรียกว่า ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
[๒๖๔] อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย เป็นไฉน กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน อัตตวาทุปาทาน นี้เรียกว่า อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
[๒๖๕] ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย เป็นไฉน ภพ ๒ คือ กรรมภพ ๑ อุปปัตติภพ ๑ ในภพ ๒ นั้น กรรมภพ เป็นไฉน ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร อาเนญชาภิสังขาร นี้เรียกว่า กรรมภพ กรรมที่เป็นเหตุให้ไปสู่ภพแม้ทั้งหมด ก็เรียกว่า กรรมภพ
อุปปัตติภพ เป็นไฉน กามภพ รูปภพ อรุปภพ สัญญาภพ อสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ เอกโวการภพ จตุโวการภพ ปัญจโวการภพ นี้เรียกว่า อุปปัตติภพ กรรมภพและอุปปัตติภพดังกล่าวมานี้ นี้เรียกว่า ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย.
[๒๖๖] ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย เป็นไฉน ความเกิด ความเกิดพร้อม ควานหยั่งลง ความเกิดจำเพาะ ความปรากฏแห่งขันธ์ ความได้อายตนะ ในหมู่สัตว์นั้นๆ ของเหล่าสัตว์นั้นๆ อันใด นี้เรียกว่า ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
ภพ เกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
#จากบทปัจจยวิภังควาโร (พระอภิธรรม)

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น