“สมาธิเรือหางยาว”
เวลาทำสมถะ วิปัสสนากรรมฐาน ภาวนา
เอาสมถะก่อน จนหมดเวทนาคือความปวดขาปวดตูดมันหายไปหมด
พอจิตมีกำลังก็มาพิจารณาธาตุ4ขันธ์5 ของกายเรานี้ มองให้เป็นไตรลักษณ์ ค่อยๆไล่ตีโจทย์ไปเรื่อยๆเอาเป็นเอาตาย ตั้งใจเอาว่าถ้าไม่สว่างหรือถ้าไม่บรรลุมรรคผลจะไม่ลุก ถ้าผีมาให้มันตาย พอทิ้งกายนี้ได้มันก็วางทิ้งขันธ์5เป็นของคนอื่นเป็นของเราเพียงมาอยู่อาศัย ทิ้งมันไป
พิจารณาเสร็จพอหมดเรื่องพิจารณาแล้ว ตอนนั้นเรือมั่นแล่นแล้วมันหยุดไม่ได้แล้ว หมายถึงจิตมันมีกำลังพละศรัทธาวิริยะสติสมาธิปัญญาอินทรีย์บริบูรณ์
ต่อให้ดับเครื่องเรือ เรือมันแล่นไปแล้ว ดูอย่างเดียวที่เนี่ย
ให้เป็นผู้ดู รู้เห็นตามความเป็นจริง อะไรจะผุดมาก็ดูอย่างเดียวเลย
นี่ละถึงเรียกว่าวิปัสสนา คือรู้เห็นตามความเป็นจริง
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น