วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

เด็ดดอกไม้ดอกเดียวสะเทือนถึงดวงดาว


ประโยคนี้คงอาจคุ้นหูคุ้นตาท่านทั้งหลายมาบ้างแล้ว



หลายคนคงอาจจะนึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นไปได้



แต่ถ้าเราลองคิดในอีกมุมมอง มุมมองหนึ่ง มองด้วยใจที่บริสุทธิ์



สมมุติว่า เราไปเที่ยวที่อุทยาน แล้วเราเห็นดอกไม้ป่าดอกนึง เอ๊ะ! ดอกไม้ดอกนี้สวยดีนะ จากนั้น เราไม่รอช้า เด็ดดอกไม้ดอกนั้น เพื่อนำไปเป็นที่ระลึกว่า เราไปเที่ยวมานะ ได้ดอกไม้ป่ามาด้วย ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือ



ณ อุทยาน



วันนี้ท่านผึ้งจะออกไปหาเกษร ตอนเช้าสักหน่อย



เอ๊ะ! ตายแล้ว ดอกไม้ดอกนี้หายไปไหน นี่เป็นส่วนผสมสำคัญนะเนี้ย แล้วเราจะกลับรังไปได้ไงนี่ ส่วนผึ้ง



ตัวอื่นๆ ก็ออกหาดอกไม้ตามที่ได้รับมอบหมายมา ต่างคนต่างมีหน้าที่ เมื่อดอกไม้สำคัญหายไป ก็เหมือนกับต่อจิ๊กซอไม่ครบ ตาตัวนี้อาจไม่ครบสูตร ในการเลี้ยงลูกผึ้ง นางพญา และประชากรผึ้ง ดอกไม้ดอกนั้นก็ไม่ได้รับการผสมและสูญพันธ์ ไม่สามารถผสมพันธุ์ พืช และต้นไม้ต่างๆ ได้ ต้นไม้ต่างๆ เมื่อออกดอก แต่ไม่มีผู้ผสมเกษรก็ไม่สามารถที่จะขยายพันธุ์ได้



เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไม้ก็ค่อยๆ ลดลงๆ เรื่อยๆ



ทำให้ ไม่มีตัวช่วยดูดน้ำ คายน้ำ หรือเวลาฝนตก ไม่มีต้นไม้ช่วยดูดซึม จากน้น ฝนก็ตกไม่ตรงตามฤดูกาล เกิดภัยแล้ง ภัยพิบัติต่างๆนานา ทำให้โลก ไม่สมดุลย์ อาจจะหมุน ออกนอกวงโคจร ของทางช้างเผือก



อาจจะทำให้ปะทะกับดาวดวงอื่น และอาจจะทำให้ดวงดาวต่างๆ หลุดออกนอกวงโคจร ไปชนกันโคล๊มๆ จนดาวทั้งหลายน้อยใหญ่ระเบิด เนื่องจากการปะทะกันของดวงดาว บางดวงอาจจะถูกแรงโน้มถ่วงของพระอาทิตย์ดูดเข้าไป เข้าไป จนเกิดการระเบิดขึ้นในดวงอาทิตย์ เมื่อหลายๆ ดวงเข้า พระอาทิตย์ก็มิอาจต้านทานได้ จนระเบิดในที่สุด ทำให้ไฟของพระอาทิตย์ แตกก็เป็นสะเก็ดต่างๆ เกิดเป็นดาวหางเล็ก พุ่งชนดาวต่างๆ ในจักรวาล จนทำให้ดาวต่างๆ ถูกอุกกาบาตชนจนไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีทั้งโลก พระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาวอังคาร ดาวเสาร์ ดาวลูกไก่



เพราะฉะนั้นแล้ว เราควรอนุรักษ์ธรรมชาติ คงไว้ชั่วลูกชั่วหลาน ตราบนานเท่านาน



zey_high 21/05/2007

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น