วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2565

อาหารปัจจโยจริงๆไม่ใช่แค่อาหารของกาย

 อาหารปัจจโยจริงๆไม่ใช่แค่อาหารของกาย แต่เป็นอาหารของจิตของใจ คือธรรมะความรู้ความเห็นที่เกิดจากสุตต+จินต+ภาวนามยปัญญา

อิ่ม ปีติ บ่กินบ่นอนกะได้ เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
อาหาร คือ สิ่งที่อุปถัมภ์ให้เกิดธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา
อาหาร แยกได้ 4 อย่าง คือ
       1. กวฬิงการาหาร...อาหารคือคำข้าว คือ ธรรมที่อุปถัมภ์ให้รูปกายดำรงอยู่ได้
โดยสมมุติธรรม คือ ข้าว ปลา อาหาร น้ำ เครื่องดื่ม และยา
โดยปรมัตถ์ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ สี กลิ่น รส และ โอชา (โอชา คือ ธาตุอาหารที่เจืออยู่ในอาหาร)
       2. ผัสสาหาร...อาหารคือผัสสะ เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา พร้อมทั้งเจตสิกทั้งหลายที่จะเกิดตามมา
       3. มโนสัญเจตนาหาร...อาหารคือมโนสัญเจตนา ได้แก่ ความจงใจ เป็นปัจจัยแห่งการทำ พูด คิด ซึ่งเรียกว่ากรรม เป็นตัวชักนำมาซึ่งภพ คือ ให้เกิดปฏิสนธิในภพทั้งหลาย
       4. วิญญาณาหาร...อาหารคือวิญญาณ ได้แก่ วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป
จะเห็นได้ว่า อาหารทั้งหมดมี 4 หมวดใหญ่ มีเพียงหมวดเดียวที่ใช้บำรุงรูปกาย ส่วนอีก 3 เป็นอาหารของ จิต และ เจตสิก
สัตว์แต่ละภพ มีอาหารต่างกัน บางภพต้องอาศัยอาหารทั้ง 4 แต่บางภพก็ไม่ต้องอาศัยอาหารกาย ต้องการเพียงอาหารจิตเท่านั้น
อาหารปัจจโยจริงๆไม่ใช่แค่อาหารของกาย แต่เป็นอาหารของจิตของใจของเจตสิกด้วย
รูปขันธ์ 1  นาม 3  (ผัสสะ 1 มโน 1 วิญญาณ 1)
ถ้าว่าตามอภิธรรม ที่ถกหัวข้อธรรมนี้ขึ้นมา คือการทำเหตุ บำรุงเลี้ยงดู ขันธ์ 5 เพื่ออินทรีย์ เพื่อฌาณ เพื่อบำเพ็ญ บำเพ็ญเพื่อนิพพาน เพื่อกระแสนิพพาน
แต่ถ้ากลับกัน เอาไปใช้ในทางที่ผิด เช่นเสพกาม เสพความเพลิน รูปรถกลิ่นเสียงสัมผัสอารมณ์ ดูหนังฟังเพลงต่างๆ ก็จะไม่ได้ไปนิพพาน คนละฝั่งกับเลย ฝั่งทุกข์ ฝั่งโลก กับฝั่งนิพพาน สั่งสมความโลภ สั่งสมราคะ บ้านสวยๆรถแพงๆ นาฬิกาแพงๆสาวๆสวยๆ ก็จะติดอยู่กับโลกอย่างนี้

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น